A Peaceful Mind

A Peaceful Mind
A Peaceful Mind

Saturday, August 10, 2013

Our Parents: พระคุณของพ่อ พระคุณของแม่ โอวาท หลวงพ่อทัตตชีโว

Our Parents



"ร่างกายที่ไม่พิกลพิการ ใครให้มา 
   ถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" 

ถ้าจะเอาท้องฟ้าอันเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา
กว้างใหญ่ไพศาลจะนับประมาณมิได้มาแทนแผ่นกระดาษ
เอาภูเขาทั้งโลกมาแทนปากกา แล้วใช้น้ำในมหาสมุทร
เอามาแทนน้ำหมึก จากนั้นก็เขียนบรรยายพระคุณพ่อ

พระคุณแม่

เขียนไปจนกระทั่งตัวอักษรเต็มท้องฟ้า
ภูเขาที่มาแทนปากกาก็สึกไปจนเหี้ยน
น้ำในมหาสมุทรแทนน้ำหมึกก็แห้งไปหมดทั้งโลก
แต่ว่าพระคุณพ่อพระคุณแม่ยังจารึกได้ไม่หมดเลย


ในเรื่องพระคุณของพ่อ พระคุณของแม่น่ะ การที่คนใดคนหนึ่งจะมองเห็นนั้น

ประการที่ ๑ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะว่าต้องเป็นเรื่องของผู้มีสติปัญญาเท่านั้น จึงจะเห็น

ประการที่ ๒ ครมีปัญญามากก็เห็นพระคุณมาก ใครมีปัญญาน้อยก็เห็นพระคุณน้อย นี้เป็นข้อจำกัดของแต่ละบุคคล

 



หลวงพ่ออยากจะให้ข้อคิดคือ ให้ถามตัวเองว่า


ความสุขกาย สบายใจทั้งหลาย ที่เราได้รับมาแล้วตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงวันตายของพวกเรา และความดีที่เราจะทำได้ตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งวันตายนี้ ใช้อะไรเป็นเครื่องรองรับ
ความสุขต้องได้ร่างกายที่เป็นคน และไม่พิกลพิการจนกระทั่งช่วยตัวเองไม่ได้ เป็นเครื่องรับรอง
ส่วนความดีต้องได้ใจที่รู้จักผิดชอบชั่วดี เป็นที่รองรับ
ทั้ง ๒ อย่างนี้เป็นสุดยอดของมนุษยสมบัติ สมบัติทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ข้าวปลาอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย เพชรนิลจินดาอะไรต่างๆ เรียกกันว่ามนุษยสมบัติ


 แต่สุดยอดของมนุษยสมบัติ คือร่างกายของเรา ที่ประกอบด้วยเลือด ด้วยเนื้อและไม่พิกลพิการ ถ้าขาดร่างกายอย่างนี้ และขาดจิตใจที่รับผิดชอบชั่วดี สมบัติทั้งหลาย ความสุขทั้งหลาย ความดีทั้งหลาย รองรับไม่ได้ 

ยกตัวอย่าง หนังสือพิมพ์เคยลงไว้ว่า มหาเศรษฐีคนหนึ่งรักสุนัขของตัวเองมาก ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ๑๐๐ ล้านเหรียญอเมริกัน ถ้าคิดเป็นเงินไทยขณะนี้ ๓,๐๐๐ กว่าล้านบาท สมบัติ ๓,๐๐๐ ล้าน เศรษฐีนั้นบอกว่าให้กับสุนัข ใครก็ได้ เอาสมบัติให้ความสุข ความสะดวกกับสุนัขของเขา ก็จะมีรางวัลให้กับคนที่มาดูแลเจ้าสุนัขตัวนี้ด้วย ซึ่งเศรษฐีนี้ต้องพลัดพรากตายจากไปก่อน

ข้อคิดก็คือ สมบัติ ๑๐๐ ล้านเรียญ หรือ ๓,๐๐๐ กว่าล้านบาทนี้ ไม่ใช่มนุษยสมบัติ สุนัขจะไปหาความสุขจากสมบัตินั้นก็ไม่ได้ เพราะว่าปัญญาและจิตใจของมัน เป็นได้แค่ใจสุนัข ปัญญาสุนัข ก็เลยเอาทรัพย์สมบัติเหล่านั้นไปใช้ไม่ได้ เอาไปทำความดีก็ไม่ได้ จะรองรับความสุขก็ไม่ได้


มองใกล้เข้ามา ตัวเราเองนี้ที่ยังอยู่ดีมีสุข มีความรู้ มีความดี มีทรัพย์สมบัติใช้สอยเต็มที่ หาความสุขได้ก็เพราะว่า ได้ร่างกายที่เป็นมนุษย์ แล้วก็ได้จิตใจที่รู้ดี รู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูก รู้บุญบาป จึงได้ความสุข ความดี ความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่เป็นอยู่นี้


"ร่างกายที่ไม่พิกลพิการ ใครให้มา ถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" 


ใครเลี้ยงดูร่างกายนี้มาถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่ ใครอบรมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูเรามา ให้สติปัญญาเรามา ถ้าไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ จริงอยู่ที่บางคนตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อหรือแม่ เพราะท่านได้ตายจากไปบ้าง พลัดพรากกันไปบ้าง หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ ท่านไม่เคยมาเลี้ยงดูหรือมาอบรมเราเลย ถามว่าคุณพ่อท่านนี้มีพระคุณอะไรกับเราหรือเปล่า

(คุณครูไม่เล็ก หลวงพ่อทัตตชีโว)


No comments:

Post a Comment